สารคดี
ประชาธิปกรำลึก: พระผู้ทรงเป็นแรงบันดาลใจในการอ่านและการเรียนรู้ตลอดชีวิต
18 พฤษภาคม 2567 21:48 | โดย นายปรีชา ขอวางกลาง
“…ถ้าไม่ชอบอ่านหนังสือแล้วก็มีแต่จะโง่ลงทุกวัน เพราะมีความรู้อะไรขึ้นก็ไม่ต้องรู้
ถ้าอ่านหนังสือ แม้เปนนิทาน หรือ Novel เรื่องอ่านเล่น ก็คงจะได้รับความรู้อะไรบ้าง ไม่มากก็น้อยทุกทีไป เพราะฉะนั้นควรพยายามอ่านเสียบ้าง…”
ถ้อยความในพระราชหัตถเลขาตอนหนึ่งในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ถึงพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจิรศักดิ์สุประภาต พระโอรสบุญธรรม แสดงให้เห็นว่าทรงตระหนักและเอาพระราชหฤทัยใส่ในการอ่าน ทรงชี้แนะให้เห็นถึงความสำคัญนี้ แท้จริงไม่ใช่แค่เพียงพระโอรสบุญธรรมที่ได้ข้อคิด คติเตือนใจนี้ แต่ยังทำให้เราทุกคนได้ฉุกคิดถึงความสำคัญของการอ่านและการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี แม้ว่ากาลเวลาจะเนิ่นนานเพียงใดก็ยังคงประจักษ์ว่าการอ่านนั้นยังมีความสำคัญ และจำเป็นต่อชีวิตเสมอ และนี่คือที่มาของเรื่องราวที่จะนำเสนอในวันนี้ “พาชมหนังสือส่วนพระองค์ รัชกาลที่ 7 พระผู้ทรงเป็นแรงบันดาลใจในการอ่านและการเรียนรู้ตลอดชีวิต”
ทำความรู้จักกับห้องพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี
ก้าวเข้าสู่เดือนพฤษภาคม อันเป็นเดือนแห่งการสวรรคต (๓๐ พฤษภาคม) เพื่อเป็นการรำลึกถึง พระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระผู้ทรงกอปรด้วยพระราชกรณียกิจ ที่ทรงคุณูปการด้านการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต จึงขอนำเสนอหนังสือส่วนพระองค์ และทรัพยากรสารสนเทศที่เกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กับล้นเกล้ารัชกาลที่ 7 ณ ห้องพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีพระบรมราชินี ณ อาคารบรรณสาร มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
ที่มาของแหล่งเรียนรู้แห่งนี้ สืบเนื่องมาจากพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามมหาวิทยาลัย ตามพระนามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศ “สมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงสุโขทัยธรรมราชา” ซึ่งสอดคล้องกับพระราชจริยวัตรส่วนพระองค์ที่ทรงเป็นนักอ่าน และทรงยึดถือความสำคัญของการเรียนรู้ตลอดชีวิต อันเป็นหลักการสำคัญของมหาวิทยาลัยที่ยึดหลักการศึกษาตลอดชีวิต (life long education) มหาวิทยาลัยจึงได้จัดตั้งห้องพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี โดยเปิดดำเนินการตั้งแต่วันพุธที่ 8 พฤศจิกายน 2538 ภายใต้ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและมูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จ พระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี
ในห้องดังกล่าวประกอบไปด้วยส่วนจัดแสดง 3 ส่วน คือ ห้องโถงกลางทุกท่านจะได้ชื่นชมพระบารมีและร่วมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี ผ่านพระบรมฉายาลักษณ์ ที่ทรงฉายในคราวพระราชพิธีอภิเษกสมรส เมื่อทอดสายตาไปยังโถงทางด้านซ้ายทุกท่านจะได้รับทราบพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ ซึ่งบอกเล่าผ่านภาพเหตุการณ์สำคัญตลอดรัชสมัย ทั้งพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2475 พระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร ในคราวฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 150 ปี ภาพพระราชกรณียกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งเอกสารจดหมายเหตุตลอดรัชสมัย และในเมื่อเดินเข้าไปยังโถงทางด้านขวา ก็จะพบห้องจัดแสดงสิ่งของส่วนพระองค์ และหนังสือส่วนพระองค์ที่จัดเก็บไว้ในชั้นหนังสือกว่าพันฉบับ
หนังสือส่วนพระองค์ทรงคุณค่า รักษาผ่านกาลเวลาหลากสมัย
เมื่อก้าวเข้าสู่ห้องหนังสือส่วนพระองค์ จะเห็นการตกแต่งของห้องที่ได้รับแรงบันดาลใจจากพระเฉลียง ในวังศุโขทัย นิวาสถานที่ประทับของทั้งสองพระองค์ ที่ชวนให้หลงใหลด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบ เชื้อเชิญให้ทุกคนได้เข้ามาศึกษาหาความรู้ หนังสือในห้องนี้ล้วนแต่ทรงคุณค่า เพราะเป็นหนังสือส่วนพระองค์ที่ได้รับมอบจากคุณหญิงมณี สิริวรสาร มากกว่าพันรายการ ทั้งนี้สำนักบรรณสารสารสนเทศได้จัดเก็บและรวบรวมบรรณานุกรมหนังสือส่วนพระองค์ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษอย่างหลากหลาย ทั้งทางด้านกฎหมายการเมืองการปกครอง ด้านการแพทย์พยาบาลสาธารณสุข ด้านวิชาการ ด้านประวัติศาสตร์ดนตรีและศิลปะ รวมทั้งเอกสารในด้านอื่น ๆ อย่างหลากหลาย สะท้อนถึงความสนพระราชหฤทัยในวิชาความรู้อย่างหลากหลาย หนังสือส่วนพระองค์บางส่วนยังนำมาอ่านและศึกษาค้นคว้าได้นับเป็นโอกาส อันดีที่เราทุกคนจะได้ตามรอยพระราชจริยวัตรด้านการอ่าน และเสริมสร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ แสดงให้เห็นถึงความสนพระราชหฤทัย ที่มีต่อความรู้หลากหลายสาขา ที่ไม่อาจจะพรรณนาให้ครบได้ในครั้งเดียว
นอกจากหนังสือส่วนพระองค์ดังกล่าวแล้วยังมีข้อมูลสารสนเทศต่าง ๆ ทั้งที่เกิดขึ้นตลอดรัชกาล และเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เช่น หนังสือ วิทยานิพนธ์ รายงานการวิจัย เอกสารจดหมายเหตุ ภาพถ่าย วีดิทัศน์ ไมโครฟิล์ม ไมโครแจ็กเก็ต แผ่นเสียงและสื่อดิจิทัล เพื่อให้ผู้เข้าชมได้ศึกษาหาความรู้ และสร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้
ป้ายบรรณสิทธิ์ และข้อคิดสอนใจ
เมื่อผู้เขียนได้เปิดหนังสือส่วนพระองค์ ก็สะดุดตากับถ้อยความภาษาในภาษาบาลีความว่า “โยคเว ชายเตมูมิ อโยคา ภูริสขโย” ในแผ่นป้ายเล็ก ๆ ที่ติดด้านหลังปกหนังสือ หรือบนใบรองปกที่เรียกว่าป้าย “บรรณสิทธิ์” (Bookplate) ซึ่งเป็นเครื่องแสดงให้เห็นว่า หนังสือดังกล่าวเป็นหนังสือส่วนพระองค์โดยธรรมเนียมการติดป้ายบรรณสิทธิ์นี้เป็นธรรมเนียมที่เกิดขึ้นในฝั่งยุโรป ก่อนที่จะแพร่เข้ามาในประเทศไทย โดยบรรดาพระบรมวงศานุวงศ์ที่เคยเสด็จไปศึกษาต่อในต่างประเทศ
กลับมาที่ถ้อยความในภาษาบาลี ความว่า “โยคเว ชายเตมูมิ อโยคา ภูริสขโย” ซึ่งแปลได้ว่า “ปัญญาย่อมเกิดเพราะการประกอบ (และ) เสื่อมสิ้นไปเพราะไม่ประกอบ” ข้อความนี้ได้สะท้อนให้เห็นพระราชจริยวัตร และความสนพระราชหฤทัยในการอ่านหนังสือ ทรงเป็นผู้ใฝ่เรียนรู้ตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์ เพราะเมื่อพิจารณาแล้วจะพบว่า ปัญญานั้นเกิดขึ้นได้ด้วยการประกอบเข้า คือหมั่นศึกษาหาความรู้อยู่เป็นนิจ หากนิ่งเฉยไม่รู้จักแสวงหาความรู้ ปัญญานั้นก็ย่อมเปลี่ยนไป ดังนั้นข้อความในป้ายบรรณสิทธิ์นี้ นอกจากจะทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์แล้ว ยังเป็นคติที่เร้าความคิดให้เราทุกคนเห็นคุณค่าของการอ่านและการเรียนรู้ตลอดเวลา
บทส่งท้าย
ในวันที่ 30 พฤษภาคมของทุกปีเป็นคล้ายวันสวรรคต ของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว แม้ว่าเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานกว่า 83 ปีแล้ว แต่พระราชกรณียกิจทางการศึกษาที่ทรงมีประราชปณิธานในการจัดการศึกษาสำหรับปวงชนและการขยายโอกาสทางการศึกษาให้กับราษฎรยังคงดำเนินต่อไปไม่สิ้นสุด รากฐานที่ทรงวางไว้ สร้างคุณูปการให้คนไทยเสมอมา พระราชจริยวัตรด้านการอ่าน ความสนพระทัยที่จะเรียนรู้ตลอดพระชนม์ชีพ ยังคงเป็นต้นแบบและเป็นแรงบันดาลใจแห่งการอ่านและการเรียนรู้ตลอดชีวิต ที่เราทุกคนจะร่วมรำลึกถึงอย่างมิเสื่อมคลาย
หากท่านใดมีความสนใจที่จะเข้าชมหนังสือส่วนพระองค์ พระราชประวัติพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และข้อมูลสารสนเทศอื่น ๆ สามารถเข้าชมได้ที่ห้องพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีพระบรมราชินี ชั้น 2 ณ อาคารบรรณสาร มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เปิดทำการในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30 - 16.30 น.