กีฬา
เมืองทอง จากทีมใหญ่ สู่ทีมยักหลับ
1 มิถุนายน 2568 08:44 | โดย นายศุภสิน สนธิ
เมืองทอง ยูไนเต็ด เคยเป็นทีมฟุตบอลชั้นนำในไทยลีกในช่วงปี 2552 – 2560 แต่ในปัจจุบันกลายเป็นทีมยักษ์หลับร้างแชมป์ไปนานถึง 8 ปี
เมืองทอง ยูไนเต็ด เป็นทีมฟุตบอลทีมไต่เต้ามาจากลีกล่างสุดของฟุตบอลอาชีพเมืองไทย ขึ้นมาสู่ลีกสูงสุดของไทย เมืองทอง ยูไนเต็ด ส่งทีมเข้าแข่งขันฟุตบอลอาชีพเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2548 เริ่มจาก ลีกล่างสุด เป็นลีกภูมิภาค (Division 2) และเลื่อนชั้นขึ้นมาสู่ลีกรอง (Division 1) ได้ ในปี พ.ศ. 2551 และในปีถัดไป พ.ศ. 2552 เมืองทอง ยูไนเต็ด สามารถคว้าแชมป์ไทยลีกได้ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่เลื่อนชั้นขึ้นมาสู่ไทยลีก และสามารถป้องกันแชมป์ไทยลีกได้อีก ในฤดูกาลถัดไป พ.ศ. 2553
ในช่วงเวลานั้น พ.ศ. 2552 – 2560 เมืองทองเป็นทีมที่แข็งแกร่งมาก และในทีมมีนักเตะทีมชาติไทยหลายคน อาทิ กองหน้า เบอร์ 10 ธีรศิลป์ แดงดา , ผู้รักษาประตูทีมชาติไทย กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ , ภานุพงษ์ วงศ์ษา , ดัษกร ทองเหลา , พิชิตพงษ์ เฉยฉิว , ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ และมีผู้เล่นต่างชาติฝีเท้าดีอีกมากมาย อาทิ ดานโญ่ เซียก้า , มาริโอ ยูรอฟสกี้ , เคลตัน ซิลวา
ด้วยผลงานทีมที่ดีและทีมมีนักเตะชื่อดังหลายคน หลายตำแหน่ง ทำให้ทีมมีแฟนบอลเข้ามาเชียร์ในสนามเป็นจำนวนมาก ราวๆหลังหมื่นคน ทีมเมืองทองสามารถดึงดูดแฟนบอลทั้งในจังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นถิ่นในฐานที่ตั้งของทีม ให้คนเข้ามาเชียร์ในสนาม และยังมีแฟนบอลที่อยู่ในกรุงเทพฯ ที่ตามมาเชียร์เมืองทองถึงที่สนามรวมไปถึงยังมีแฟนบอลอยู่ต่างจังหวัดทั่วประเทศไทยอีกเป็นจำนวนมาก ทำให้มีกลุ่มแฟนบอลจากต่างจังหวัด เดินทางมาเชียร์เมืองทองแข่งที่สนามเหย้า
ด้วยผลงานทีมที่ดีเวลาแข่งในบ้าน ทำให้แฟนบอลหลายๆคน ตามไปเชียร์เวลาที่ออกไปเป็นทีมเยือนด้วย ไม่ว่าจะเยือนทีมในโซนกรุงเทพฯและปริมณฑล หรือเยือนทีมที่อยู่ต่างจังหวัด ก็จะมีกลุ่มแฟนบอลที่รวมตัวกันตามไปให้กำลังใจทีมเมืองทองอยู่เสมอในทุกๆแมต
ในสมัยนั้น ช่วงปี 2552 - 2562 เกม Big Match ที่เมืองทอง เปิดบ้านแข่งกับทีม ชลบุรี เอฟซี และ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แฟนบอลให้ความสนใจเกมเป็นจำนวนมาก บัตรถูกขายหมดเกลี้ยงนับหมื่นใบ และมีคนหลายคนที่ซื้อบัตรไปขายขายต่อในราคาที่แพงขึ้น จากบัตรราคาไม่เกิน 200 บาท เอาไปขายต่อราคาที่เกิน 1,000บาท แต่ก็มีแฟนบอลที่อยากดูเกมคู่นี้จริงๆยอมซื้อบัตรมือสองที่ขายราคาแพงเพื่อให้ได้เข้าสนามไปชมเกมการแข่งขันคู่นี้ ที่ทำให้มีแฟนบอลหลายๆคนอยากดูการแข่งขันคู่นี้ เพราะว่า ทีมเมืองทอง ยูไนเต็ด , บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และทีมชลบุรี เอฟซี เป็น 3 ทีมฟุตบอล ทีมใหญ่ในไทยลีก มีนักเตะทีมชาติไทย และนักเตะต่างชาติฝีเท้าดี อยู่ในทีม 3 ทีมนี้ เกมที่เจอกันทั้งในบอลลีกที่สนุกมาก 3 ทีมนี้คือทีมที่ปลุกกระแสบอลไทยฟีเวอร์ ทำให้คนไทยอยากดูฟุตบอลไทย
ฤดูกาลที่ดีที่สุดของทีมเมืองทอง คือฤดูกาล 2555 เป็นฤดูกาลที่เมืองทองคว้าแชมป์ไทยลีกได้แบบไร้พ่าย โดยที่ไม่แพ้ทีมใดเลยตลอดฤดูกาลในไทยลีก ทำให้ทีมได้สิทธิ์จากโควต้าแชมป์ไทยลีก คว้าตั๋วไปแข่งขันฟุตบอลถ้วยสโมสรเอเชีย ถ้วยใหญ่ (AFC Champions League) ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร โดยที่ไม่ต้องไปแข่งรอบ Play Off แต่ผลงานในการไปลุย AFC Champions League ครั้งแรกของทีมเมืองทอง ในฤดูกาล 2556 ทีมจบอันดับด้วยการเป็นบ๊วยของกลุ่ม ตกรอบแบ่งกลุ่ม
ทีมเมืองทองในยุคนั้น พ.ศ. 2555 มีสปอนเซอร์หลายเจ้า เข้ามาสนับสนุนทีม โดยเฉพาะสปอนเซอร์รายใหญ่อย่าง SCG ที่สนับสนุนทั้ง การจ่ายเงินเป็นสปอนเซอร์คาดอกเสื้อแข่งของทีมเมืองทองและซื้อชื่อทีมเมืองทอง ให้เอาชื่อสปอนเซอร์เข้าไปอยู่ในชื่อทีม เปลี่ยนชื่อทีมเป็น SCG เมืองทอง ยูไนเต็ด และซื้อชื่อสนามเหย้าของเมืองทอง ให้ใช้ชื่อสนาม SCG Stadium ทำให้ทีมเมืองทองในยุคนั้น มีรายได้เข้าสโมสรเป็นจำนวนมาก ทีมในยุคนั้น จึงมีเงินในการทุ่มซื้อนักเตะฝีเท้าดีเข้ามาร่วมทีม และด้วยผลงานและอันดับของทีม รวมไปถึงค่าเหนื่อยที่สูงที่ทีมจ่ายให้นักเตะ ทำให้เป็นแรงดึงดูดให้นักเตะฝีเท้าดีหลายๆคนสนใจอยากมาร่วมทีม
จากความสำเร็จในครั้งนั้น ทำให้ทีมเมืองทองต่อยอดไปสู่ยุคทองของทีมเมื่อฤดูกาล 2559 เป็นฤดูกาลที่ทีมเมืองทอง ทุ่มเงินซื้อนักเตะทีมชาติไทยชุดใหญ่ในยุคนั้นเข้ามาร่วมทีมหลายคน อาทิ ชนาธิป สรงกระสินธุ์ , ธนบูรณ์ เกษารัตน์ , อดิศักดิ์ ไกรษร , ทริสตอง โด , อดิศร พรหมรักษ์ , ธีราทร บุญมาทัน และรวมกับนักเตะทีมชาติไทยที่มีอยู่ในทีมอยู่แล้ว อาทิ ธีรศิลป์ แดงดา , กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ , อาทิตย์ ดาวสว่าง , ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ทีมมีนักเตะฝีเท้าดีหลายคนหลายตำแหน่ง ทำให้เมืองทองในฤดูกาลนั้น จบฤดูกาล ด้วยการคว้าแชมป์ไทยลีก สมัยที่ 4 มาครองได้สำเร็จ
ในช่วงฤดูกาล 2560 – 2561 ทีมเมืองทอง ได้ปล่อยนักเตะออกไปหาประสบการณ์ ค้าแข้งในต่างแดนถึง 4 คน มี ชนาธิป สรงกระสินธ์ , ธีรศิลป์ แดงดา , ธีราทร บุญมาทัน ไปเล่นลีกญี่ปุ่นและ กวินทร์ ธรรมสัจ-จานันท์ ลีกเบลเยี่ยม
จุดเปลี่ยนของทีมเมืองทอง อยู่ที่ฤดูกาล 2561 ปีนั้น ทีมเมืองทอง ปล่อยตัวผู้คนสำคัญไปค้าแข้งต่างในประเทศ 4 คน ดังที่ได้เล่าไป และด้วยทีมมีการเปลี่ยนแปลงกุนซือของทีม โค้ชแบนด์ ธชตวัน ศรีปาน ประกาศลาออกเพื่อรับผิดชอบกับผลงานทีมตั้งแต่ต้นฤดูกาล ทีมมีการเปลี่ยนแปลงโค้ชระหว่างฤดูกาล ทำให้ทีมเมืองทองทำผลงานได้ไม่ค่อยจะดี จบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 4 ของตารางคะแนน จากที่เคยจบฤดูกาลด้วยการเป็นแชมป์ หรืออันดับที่ 2 มาตลอดทุกๆฤดูกาล ด้วยผลงานที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่ควรจะเป็น ทำให้แฟนบอล จากที่เคยเช้ามาเชียร์เต็มสนาม ก็ค่อยๆลดจำนวนลงไป หลังนั้นเมืองทองก็ไม่ได้เป็นทีมใหญ่อีกต่อไป เมืองทอง ตกมาเป็นทีมระกลางตารางตั้งแต่ตอนนั้น
ช่วงฤดูกาล 2563 - 2564 แฟนบอลเมืองทอง เริ่มจะยอมรับและทำใจได้แล้วว่า ทีมจะกลายเป็นทีมยักษ์หลับ ไม่ใช่ทีมลุ้นแชมป์อีกต่อไป โดยในฤดูกาลนั้นสโมสรได้เริ่มเปลี่ยนเป้าหมายการทำทีม จากที่เคยซื้อนักเตะดังฝีเท้าดีมาร่วมทีม เปลี่ยนเป็นการปั้นนักเตะในอคาเดมี่สโมสร ดันขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่ อาทิ ปรเมศย์ อาจวิไล , กรวิชญ์ ทะสา , สรวิทย์ พานทอง , สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ , ชาติชาย แดงดาว , วัฒนากร สวัสดิ์ละคร เนื่องจากทีมไม่ได้มีเงินมากพอที่จะทุ่มเงินซื้อนักเตะแบบเมื่อก่อนแล้ว เพราะว่าสปอนเซอร์ถอนตัวออกจากการสนับสนุนทีมเมืองทองหลายเจ้า ถึงแม้ทีมเมืองทองจะไม่ค่อยมีนักเตะชื่อดังฝีเท้าดีแบบเมื่อก่อนแล้ว แต่ทีมก็ยังคงปั้นนักเตะดาวรุ่งให้ก้าวขึ้นไปสู่ทีมชาติไทยชุดใหญ่ อาทิ ปรเมศย์ อาจวิไล , เจริญศักดิ์ วงษ์กร , ทรงวุฒิ ใคร่ครวญ และทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี อาทิ สรวิทย์ พานทอง , ปุรเชษฐ์ ทอดสนิท , โสภณวิชญ์ รักญาติ
มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ สปอนเซอร์รายใหญ่อย่าง SCG หมดสัญญาสนับสนุนทีมเมืองทอง SCG ได้ถอนสปอนเซอร์ออกไป ทำให้ทีมขาดรายได้มหาศาล จากที่เคยสนับสนุนทีมในหลายๆด้าน ทีมเมืองทองต้องเปลี่ยนกลับไปใช้ชื่อทีม เมืองทอง ยูไนเต็ด และเปลี่ยนชื่อสนามเหย้ากลับมาใช้ชื่อ สนาม Thunder Dome Stadium ตามชื่อเดิม ทำให้ทีมเมืองทองขาดรายได้หลายล้านบาท ทำให้ทีมไม่มีเงินทุนมาทุ่มซื้อนักเตะดังฝีเท้าดีแบบเมื่อก่อน
ถึงแม้ทีมจะไม่ได้เป็นทีมใหญ่แบบเมื่อก่อน ไม่ได้มีเงินถุงเงินถังแบบเมื่อก่อน แต่ก็ยังมีกลุ่มแฟนบอลที่ยังคงเข้ามาเชียร์ทีมเมืองทองที่พวกเขารักอยู่เสมอในทุกๆแมต ทั้งแมตที่แข่งขันในบ้าน และแมตที่ออกไปเป็นทีมเยือน แฟนบอลเมืองทองคาดหวังว่าสักวัน ทีมของพวกเขาจะกลับมาเป็นทีมลุ้นแชมป์อีกครั้ง ซักวันยักษ์ตัวนี้ จะถูกปลุกให้กลับมาตื่นอีกครั้ง
ปัจจุบัน เมืองทอง ยูไนเต็ด ร้างลาความสำเร็จในคว้าแชมป์ ไปนานถึง 8 ปี แล้ว ถึงแม้ว่ายักษ์หลับ จะยังไม่ตื่นในวันนี้ แต่ซักวัน ยักษ์ตัวนี้ จะถูกปลุกให้กลับมาตื่นอีกครั้ง ดั่งที่แฟนเมืองทองทุกๆคนได้คาดหวังไว้
บทสัมภาษณ์จากความเห็นของแฟนบอลเมืองทองที่ยังคงเข้ามาเชียร์เมืองทองท่านหนึ่ง
โดย นายบัณวัชร อุยานุกิจกูล แฟนบอลเมืองทอง ได้บอกความรู้สึกว่า เหตุผลที่ยังคงสนับสนุนทีม ซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขันรายปี ในทุกๆปี เพื่อมาเชียร์ทีมเมืองทองแข่งในบ้าน เพราะว่า “พอใจ ถ้าเทียบกับงบทำทีม นโยบาย ลุ้นจบอันดับที่ 4 – 5 กับมีลุ้นบอลถ้วยบ้าง ส่วนในสนามก็พอใจ ช่วงหลังนักเตะมีสปิริต เล่นเพื่อแฟนบอล ต่อให้ผลงานจะไม่ได้เหมือนทีมหัวตาราง แต่ก็ได้ดูดาวรุ่งไทยลงเล่น ต่อยอดไปสู่ทีมชาติไทย แต่ถ้าเลือกได้ อยากจะให้ผู้บริหารทีมลงทุนทุ่มงบทำทีมเพื่อไปเล่นรายการชิงแชมป์สโมสรเอเชีย และหวังให้ดันเด็กดาวรุ่งขึ้นมาสู่ทีมเมืองทองชุดใหญ่เยอะๆ และปั้นดาวรุ่งส่งไปค้าแข้งในต่างประเทศเหมือนที่เคยทำ”