ข่าวเศรษฐกิจ

“รถไฟมาทำเอาวินแจ้งวัฒนะ-เมืองทอง รับศึกหนัก ผู้โดยสารหาย กำไรหด”

31 พฤษภาคม 2568 20:38 | โดย นางสาวนริศรา บุญมีจ้อย


เริ่มเปิดให้ทดลองใช้บริการฟรีแล้ว รถไฟฟ้าสายสีชมพู ส่วนต่อขยายเข้าสู่เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม ถึง 16 มิถุนายน 2568 และจะเริ่มเปิดบริการเก็บเงินเต็มรูปแบบ วันที่ ​17 มิถุนายน 2568 แม้รถไฟฟ้าสายนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน แต่สำหรับวินมอเตอร์ไซค์ในพื้นที่ แจ้งวัฒนะ-เมืองทองธานี กลับกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ผู้โดยสารหาย รายได้ลด จนบางคนเริ่มรู้สึกว่า “ไม่มีใครมองเห็นพวกเราเลย”


จากการสังเกตการณ์ของผู้สื่อข่าว พบว่า วินมอเตอร์ไซค์ในพื้นที่แจ้งวัฒนะ-เมืองทองธานี ได้รับผลกระทบโดยตรง จากการเปิดให้ทดลองใช้รถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยาย ซึ่งมีสถานีเชื่อมต่อเข้าสู่เมืองทองธานีโดยตรง เนื่องจากผู้โดยสารได้เปลี่ยนจากวินมอเตอร์ไซค์มาใช้บริการรถไฟฟ้าแทน ส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในช่วงเย็นหรือช่วงมีงานอีเวนต์ ซึ่งเคยเป็นช่วงเวลาทำเงิน  

นายทรงศักดิ์ สุขแสง นักครีเอทีฟพนักงานบริษัท ที่มาร่วมงานอีเวนต์ ณ เมืองทองธานี เปิดเผยว่า ตนเลือกใช้รถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายแทนการใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์ เนื่องจากความสะดวกสบายในการเดินทาง ไม่ต้องตากแดดหรือลุยฝน อีกทั้งยังได้นั่งในห้องโดยสารที่มีเครื่องปรับอากาศเย็นสบาย ซึ่งช่วยให้การเดินทางเป็นเรื่องผ่อนคลายยิ่งขึ้น พร้อมระบุว่า รถไฟฟ้ามอบความมั่นใจด้านเวลา และภาพลักษณ์ที่ทันสมัยกว่า จึงมองว่าเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าในระยะยาว


นายทรงศักดิ์ สุขแสง นักครีเอทีฟพนักงานบริษัท ที่มาร่วมงานอีเวนต์ ณ เมืองทองธานี

ขณะที่อีกหนึ่งผู้โดยสาร นางสาวดลฤดี นราศรี นักบัญชีซึ่งพักอาศัยอยู่บริเวณเมืองทองธานี เปิดเผยว่า ตนเลือกใช้รถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายแทนการใช้บริการ วินมอเตอร์ไซค์ เนื่องจากราคาค่าโดยสารใกล้เคียงกัน โดยรถไฟฟ้าอยู่ที่ 21 บาท ขณะที่วินมอเตอร์ไซค์คิดราคา 20-30 บาท และอาจมีการปรับขึ้นในช่วงเวลาเร่งด่วน นอกจากนี้รถไฟฟ้ายังให้ความมั่นใจด้านเวลาเดินทาง ไม่ต้องรอคิวนานหรือเผชิญปัญหาการจราจรติดขัด อีกทั้งยังให้ความรู้สึกปลอดภัยกว่าในบางช่วงเวลา เช่น ตอนกลางคืน


นางสาวดลฤดี นราศรี นักบัญชีซึ่งพักอาศัยอยู่บริเวณเมืองทองธานี

ด้านของวินมอเตอร์ไซค์ นายสุรชัย ศรีพัฒน์ ผู้ขับขี่วินมอเตอร์ไซค์บริเวณแจ้งวัฒนะ–เมืองทองธานี เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ในช่วงที่มีการจัดงานอีเวนต์ เช่น คอนเสิร์ตหรือมหกรรมต่างๆ รายได้ต่อวันสามารถสูงถึง 1,000–1,500 บาท เนื่องจากมีผู้โดยสารจำนวนมากต้องการเดินทางเข้าพื้นที่เมืองทองธานี โดยเฉพาะในช่วงเย็นหลังเลิกงาน แต่หลังจากมีการเปิดทดลองใช้รถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยาย ซึ่งมีสถานีเชื่อมต่อโดยตรง 10 วันที่ผ่านมา รายได้ลดลงครึ่งหนึ่ง เหลือเพียงประมาณ 500–800 บาทต่อวัน ผู้โดยสารได้เปลี่ยนไปใช้บริการรถไฟฟ้าแทน ส่งผลให้วินมอเตอร์ไซค์จำนวนมากเริ่มรู้สึกถึงผลกระทบด้านรายได้อย่างชัดเจน ขณะที่ต้นทุนรายวัน เช่น ค่าน้ำมันและค่าบำรุงรักษายังคงเท่าเดิม ทำให้หลายรายต้องเร่งปรับตัวเพื่อความอยู่รอด


นายสุรชัย ศรีพัฒน์ ผู้ขับขี่วินมอเตอร์ไซค์บริเวณแจ้งวัฒนะ–เมืองทองธานี

บรรยากาศของวินมอเตอร์ไซค์ในพื้นที่เริ่มซบเซา ผู้โดยสารลดน้อยลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ขับขี่วินมอเตอร์ไซค์ บางรายต้องปรับเปลี่ยนวิธีหาลูกค้า จากเดิมที่นั่งรออยู่ประจำจุดบริการ กลับต้องขี่รถเข้าไปหาผู้โดยสารตามซอยต่างๆ ด้วยตนเอง เพื่อเพิ่มโอกาสในการรับงาน โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วนหรือช่วงที่มีการจัดกิจกรรมในพื้นที่เมืองทองธานีซึ่งเคยเป็นช่วงเวลาทำรายได้หลัก อย่างไรก็ตาม วินมอเตอร์ไซค์จำนวนมากยังคงพยายามปรับตัวและรักษาอาชีพไว้ ด้วยการขยายเส้นทางให้บริการเข้าสู่พื้นที่ซอยลึกมากขึ้น

ด้านนายบุญฤทธิ์ สงสัย ผู้ขับขี่วินมอเตอร์ไซค์บริเวณแจ้งวัฒนะ–เมืองทองธานี เปิดเผยว่า แม้จำนวนผู้โดยสารจะลดลงจากผลกระทบของการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยาย แต่ตนยังเชื่อว่าวินมอเตอร์ไซค์ยังคงมีข้อได้เปรียบที่แตกต่างและตอบโจทย์ผู้โดยสารในบางกลุ่ม โดยเฉพาะในพื้นที่ชุมชนหรือซอยลึกที่รถไฟฟ้าไม่สามารถเข้าถึงได้ “ยังไงวินก็ยังมีข้อดีอยู่นะครับ เราเข้าถึงบ้านคนได้จริงๆ ไม่ต้องเดินไกลเหมือนรถไฟฟ้า เราส่งถึงหน้าประตูบ้านเลย” เขากล่าว พร้อมระบุว่า สำหรับผู้สูงอายุหรือผู้ที่ถือของจำนวนมาก วินยังคงเป็นทางเลือกที่สะดวกที่สุด ขณะเดียวกัน ผู้โดยสารบางรายที่ต้องการความรวดเร็วแบบนาทีต่อนาที ก็ยังเลือกเรียกวิน ซึ่งรถไฟฟ้าอาจยังไม่สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งหมด


นายบุญฤทธิ์ สงสัย ผู้ให้บริการวินมอเตอร์ไซค์บริเวณแจ้งวัฒนะ

ทั้งนี้ เพื่อลดผลกระทบจากจำนวนผู้โดยสารที่ลดลง วินมอเตอร์ไซค์หลายรายได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการ จากเดิมที่นั่งรออยู่ตามจุดบริการหลัก มาเป็นการขี่เข้าไปหาผู้โดยสารตามซอยต่างๆ มากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วนที่มีการแข่งขันสูง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังไม่มีหน่วยงานใดลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาหรือหาแนวทางช่วยเหลือผู้ให้บริการกลุ่มนี้ นายบุญฤทธิ์ สงสัย ผู้ขับขี่วินมอเตอร์ไซค์บริเวณแจ้งวัฒนะ–เมืองทองธานี กล่าวทิ้งท้ายว่า “รถไฟฟ้ามันก็ดีครับ แต่ก็มีผลกับพวกเราชัดเจน อยากให้มีคนมาฟังเสียงเราบ้าง หรือมีหน่วยงานไหนช่วยกันได้บ้างไหม”